ข้าวแช่ JIM THOMPSON @ THOMPSON BAR AND RESTAURANT
.
ข้าวแช่ถือเป็นเมนู ที่ได้รับอิทธิพลมาจากมอญ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ครับ ในยุคสมัยนั้น เป็นอาหารที่ทำถวาย เฉพาะในวังเท่านั้น จนมาปัจจุบัน ถึงแม้เป็นเมนูที่มีขายทั่วไป แต่ก็ถือว่าหาทานยากมากๆ เมนูนึงของบ้านเราเลยครับ นานๆทีผมถึงจะเจอร้าน ที่ขายข้าวแช่เป็นจริงเป็นจังตลอดทั้งปี ผมทานล่าสุดน่าจะเป็นที่เกาะเกร็ดครับ จัดมาเป็นเซ็ตง่ายๆ เล็กๆ ซึ่งเมนูหลักของข้าวแช่นี้ เหมาะกับหน้าร้อนแบบบ้านเรามากๆ
.
ข้าวแช่ Jim Thompson จะจัดเมนูพิเศษนี้ เฉพาะปลายเดือนมีนาคม ถึง 31 พ.ค. 59 นี้เท่านั้นครับ จะไม่ได้ขายตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละปีก็กำหนดวันมาไม่เหมือนกัน โดยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ ข้าวแช่ Jim Thompson ก็คือข้าวหอมมะลิสองสี คือข้าวขาว กับม่วงจากดอกอัญชัญ ข้าวที่ใช้ เป็นข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในโลก จากทุ่งกุลาร้องไห้ ที่พื้นดินอุดมไปด้วยเกลือธรรมชาติ จากนั้นนำข้าวไปซาวถึง 7 รอบ เพื่อล้างยางข้าวให้ออก ให้เมล็ดข้าวใสก่อนจะนำไปหุง โดยการหุงจะหุงให้สุกแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แล้วนำมานึ่งต่อจนสุก
.
ส่วนน้ำอบที่ใช้ เป็นน้ำอบที่ลอยดอกมะลิ และอบควันเทียนทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนจะนำมาเสิร์ฟ ผสมผสานกับกลิ่นหอมของกุหลาบมอญอ่อนๆเข้าไปด้วย ยิ่งเพิ่มความหอม และสดชื่นมากๆ ทานกับเครื่องเคียงหลากหลายอย่าง
.
1. พริกหยวกสอดไส้กุ้งและไก่สับ ห่อด้วยไข่ ตัวพริกหยวกจะหวาน และเผ็ดบางๆอยู่ครับ ตัวไส้จะออกเค็มๆ นิดๆ ทานกับไข่ที่ห่อไว้ ที่อยู่ด้านนอกก็ครบรสดีครับ
.
2. หัวหอมทอดสอดไส้ปลาแห้ง ตัวปลาแห้งที่ใช้ จะเป็นปลาช่อนแดดเดียวชั้นดีครับ ตัวหัวหอมจะยังคงมีกลิ่นฉุนๆ อยู่บ้าง ถ้าใครไม่ชอบทานหัวหอม อาจจะลำบากหน่อยครับ แต่ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบหัวหอมเอามากๆ เลยโอเคหน่อยครับ
.
3. เนื้อเค็ม หรือหมูฝอยผัดหวาน เมนูนี้สามารถเลือกได้ครับ ใครไม่ทานหมู หรือไม่ชอบหมูฝอย สามารถเลือกเป็นเนื้อเค็มได้ แต่ผมก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับเนื้อเค็มในเมนูข้าวแช่ซักเท่าไหร่ แต่ถือว่า เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้า ที่มาจากหลากหลายชนชาติครับ
.
.
4. หัวไชโป๊วผัดหวาน ไชโป๊วที่ใช้ จะเป็นไชโป๊วจากสุรินทร์ ที่ขึ้นชื่อชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตผักกาด ที่ดีที่สุด แล้วนำมาหมักในน้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มความหอม และหวานธรรมชาติ
.
5. ไก่ผสมเนื้อปลาเค็ม ดูๆแล้วเมนูนี้จะคล้ายๆ กับเนื้อปลาเค็มมากๆ แต่มีความจืด และนุ่มของเนื้อไก่เข้ามาเสริมครับ ทานไปแล้ว ผมไม่รู้สึกถึงความเค็มของปลาเค็ม หรือผมอาจจะไม่ได้กลิ่นปลาเค็ม แบบที่คุ้นเคยก็ได้ครับ ถ้าทานแบบไม่บอก ผมก็ไม่ทราบว่ามีปลาเค็มผสมอยู่ด้วย
.
6. ลูกกะปิทอด ของเด็ดของเมนูข้าวแช่ ที่ทุกที่ต้องมีครับ ที่นี่จะใช้กะปิชั้นดีจากระยอง ผสมกับตะไคร้ กระชาย เนื้อปลาช่อนนึ่งสุก และปลาดุกย่างเข้าไปด้วย ลูกกะปิที่นี่ ผมว่าอร่อยดีครับ ไม่เค็มเกินไป เหมือนหลายๆที่ และที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นกะปิ ที่โดดแหลมออกมามากนัก
.
7. ผักแกล้ม ด้วยเอกลักษณ์การตกแต่งจานของที่นี่ ไม่เคยเป็นรองใคร แม้แต่ผักแกล้ม ยังจัดมาได้อย่างลงตัว และสวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงเขียวเสวยดิบ ต้นหอม พริกชี้ฟ้าแดง แตงกวา ดอกกระชายจำปี ผักปรัง และแครอท ผักทั้งหมดของ ข้าวแช่ Jim Thompson เป็นผักปลอดสารพิษทั้งหมดครับ
.
ปิดท้ายด้วย มะม่วงลอยแก้ว เห็นครั้งแรกก็พยายามเดากันต่างๆนานาว่ามันคืออะไร เพราะหน้าตาไม่คุ้นเอาเสียเลย ผมก็เพิ่งเคยทานครั้งแรกเลยครับ เอามะม่วงมาฝานบางๆ แล้วจับไปลอยแก้วในน้ำเชื่อม เปรี้ยวอมหวานก็อร่อยไปอีกแบบครับ (แต่ขนมหวานสำหรับปี 2559 นี้ จะเป็นข้าวเหนียวมะม่วงครับ)
อิ่มอร่อยกับเมนู ข้าวแช่ Jim Thompson รวมถึงของหวานที่ราคา 490 บาทครับ มีเสิร์ฟวันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2559 เท่านั้นนะครับ สามารถเลือกทาน ได้ทั้ง 2 สาขา คือที่ Jim Thompson Restaurant and Wine Bar (พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ซ.เกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1) และที่ Jim Thompson Restaurant and Lounge ถ.สุรวงศ์ครับ
.
.
**** พิกัด & ติดต่อ ****
Website : http://www.jimthompsonhouse.com/
โทร : 02 216 7368
Opening Hours : 11:00 – 23:00
(121)
Views: 36