Site icon LET'S EAT THAILAND กินกับเดี่ยวเที่ยวกับมด

Let’s Eat : Buddy Boys’ Diner

Spread the love

Buddy Boys’ Diner


ร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันร้านขึ้นชื่อในหลายๆด้านครับ ทั้งการตกแต่งร้านที่เป็นสไตล์อเมริกันย้อนยุค ในยุค50’s ทั้งของประดับตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงโทนสีของร้านที่ใช้ ร้านนี้มีที่นั่งในร้าน3-4โต๊ะครับ กับตรงเคาเตอร์อีกประมาณ4-5ที่ ส่วนนอกร้านก็มีจัดวางไว้2-3โต๊ะครับผม

อีกเรื่องที่ขึ้นชื่อคือเรื่องอาหารฟาส์ฟูดจานยักษ์ครับ แต่ละเมนูที่เสริฟ แต่ละที่ที่สั่ง แต่ละจานที่ทานใหญ่พอประมาณ จนบางคนอาจจะต้องแบ่งทานสองคนเลยก็มี ครับ แต่ถ้าสายแข็งไปอาจจะพอดีอิ่มครับผม

 

อีกเรื่องที่ขึ้นชื่อมาพอสมควรและแทบทุกโพสต้องพูดถึงคือเรื่องมารยาทและบริการครับ บางโพสเขียนด่าหนักมากๆ ยิ่งถ้าให้คะแนนแล้วด้วยยิ่งต่ำขนาดที่ตกใจเลยครับ

 

ในวันที่ผมไปมีเพื่อนไปถึงก่อนแล้วจองที่ไว้ เป็นโต๊ะใหญ่6ที่ แต่ผมยังไปไม่ถึง เลยให้คิวอื่นแทรกไปก่อนครับ ซึ่งเป็นธรรมดาและรับได้ครับ แต่เพื่อนผมหิวน้ำช่วงที่รอ แล้วในร้านก็มีโต๊ะขนาด3-4ที่อยู่โต๊ะนึง เลยถามว่าจะสั่งเครื่องดื่มมาทานก่อนได้มั้ย พนักงานที่ร้านชี้นิ้วไปร้านข้าวๆแล้วให้ไปสั่งร้านข้างๆแทนครับ เพื่อนผมก็ถามว่าถ้าร้านข้างๆไม่มีเครื่องดื่มที่อยากทานทำไง เค้าก็นิ่งไปแล้วถึงยอมให้สั่ง Rootbeer Float ครับ

พอผมไปถึง(เพื่อนๆได้นั่งโต๊ะใหญ่แล้วๆสั่งกันไปแล้ว) ผมไปถึงก็อ่านเมนูและสั่งปกติครับ สิ่งที่ผมรับรู้คือ พนักงานมี่เคาเตอร์แต่ละคนก็ยิ้มแย้มดี และพูดจากับผมดีทุกคนครับ ผมไม่รู้สึกเหมือนหลายๆโพสที่เคยเขียนไว้เลย

 

อาหารที่นี่ถือว่าเป็นFast Food จริงๆครับ มาเร็วสมชื่อจริงๆ ไม่ถึง10นาทีอาหารก็ทยอยออกมา พอได้แล้ว พนักงานก็จะเรียกชื่อโต๊ะให้เราลุกไปรับอาหารเองครับ พออาหารลงโต๊ะ ผมก็ยกกล้องใหญ่เตรียมจะถ่ายเท่านั้นแหละ ดค้าก็บอกว่าห้ามใช้ค่ะ ใช้ได้แต่กล้องมือถือเท่านั้น(จริงๆผมก็รู้ครับ หลังจากที่อ่านมาจากหลายๆโพส แต่เพียงแค่นึกว่าเวลาเปลี่ยนไปเค้าอาจจะไม่มีข้อห้ามนี้แล้ว เลยติดกล้องไปด้วย) ผมไม่มีโอกาสได้ถามว่าทำไมถึงห้ามครับ พอน้องเค้าตอบเสร๋จก็รีบหันหน้ากลับไปเลย ด้วยความที่ว่าลูกค้าเต็มร้านด้วยครับ

 

อาหารที่สั่งไปมีBuddy Boy Burger เป็นเบอร์เกอร์หมูชิ้นโตๆ แต่ชิ้นหมูก็200-250กรัมเข้าไปแล้วครับ(ฝหญ่พอๆกับสเต็กหลายๆร้านเลยครับ) เสริฟมาพร้อมกับผัก ชีส เบคอน ไข่ เฟรนฟรายและหอมทอดครับ 290บาท ชิ้นใหญ่มากๆครับ ใช้มือจับอ้าปากยัดก็ไม่หมดครับ ต้องหั่นเสี้ยวเลยถึงจะทานได้ ส่วนอีกจานเป็นเบอร์เกอร์หมูธรรมดาครับ ก็จะไม่มีหอมทอด ไม่มีไข่และเบคอนครับราคา 250บาท ส่วนเบอร์เกอร์ปลาก็มาไม่ต่างจากร้านอื่นๆครับเพียงแต่ว่าชิ้นใหญ่กว่ามากเท่านั้นเอง

จานหลักอีกสองจานที่สั่งจะเป็นสเต๊กเนื้อครับ เสริฟพร้อมกับขนมปัง มันทอดชิ้นใหญ่ เผ็ดปาปริก้านิดๆและผักลวกครับผมสั่งแบบmediumมา เนื้อนุ่มดีครับ ราดเกรวี่เข้าไปด้วย ไม่เลวเลยครับผม ส่วนอีกจานเป็นจานโปรดผมเลย ซี่โครงหมูย่างBBQหรือ Spare Rip เป็นHalf Rack ที่ใหญ่ทีเดียวครับ หมักมาเข้าเนื้อดี นุ่มมาก ใช้มีดแซะๆเนื้อก็หลุดจากโครงแล้วครับ เสริฟมากับผักย่างครับ สองเมนูหลังนี้ผมว่าผ่านครับ ราคา400บาทครับ

อาหารทานเล่นของคุณหนูก็สั่งมาด้วยครับ เป็นnuggetไก่ครับผม ผมไม่ได้ชิมครับ ว่าเป็นยังไง แต่ก็คงไม่ต่างจากที่อื่นๆมากครับผม(90บาท)

ส่วนเครื่องดื่มคู่กับร้านอาหารอเมริกันก็ต้องเป็นพวกมิลค์เชคครับ เสริฟมาแก้วใหญ่ๆ (90บาท)และ Root Beer Float (75บาทครับ) เพื่อนผมบอกว่าอร่อยกว่าA&W ครับ แต่ผมไม่ได้ลอง ผมว่าจะกลับไปลองเบอร์เกอร์เนื้ออีกอย่างครับ คราวที่แล้วอิ่มมากเกิน ยัดอะไรไม่ไหวแล้ว

 

ร้านนี้ผมว่าเค้าพยายามปรับปรุงเรื่องบุคลากรนะครับ หลังจากที่ผมสัมผัสแล้วเทียบกับที่หลายๆโพสมา แต่ถ้าใครจะหวังเรื่องบริการเหมือนร้านอาหาฝรั่งเศสแล้วละก็ ผมแนะนำว่าอย่าไปครับ ร้านนี้อเมริกันจ๋าแบบสุดโต่งครับ บริการตัวเองทุกอย่างครับ ไม่มีข้อแม้ใดๆ ที่สำคัญห้ามใช้กล้องใหญ่ถ่ายรูปนะครับ 55555 ลองได้ไม่เสียหายครับ ราคาต่อหัวอยู่ที่300-400บาทครับผม

 

ร้านนี้อยู่บนถนนราชพฤกษ์ขาเข้าครับ เยื้องๆกับ The Circle ตัวร้านอยู่ในเวิ้งที่จอดรถของร้านอาหารปลาอยู่เย็นครับผม ถ้ามาจากสน.ตลิ่งชัน เลี้ยวซ้ายเข้ามา ข้ามสะพานข้ามคลองสูงๆ แล้วชิดซ้ายได้เลยครับผม

 

(279)

Facebook Comments

Views: 37

Exit mobile version