Site icon LET'S EAT THAILAND กินกับเดี่ยวเที่ยวกับมด

King’s Palace @ K Village

Spread the love

King’s Palace @ K Village

Let’s Eat : ชิม โจ๊กฮ่องกง ต้นตำรับ ใกล้แค่เอื้อมที่ K-Village

.

.

หลายๆคนที่ไปฮ่องกงบ่อยๆ อาจจะพอคุ้นชื่อร้านนี้กันบ้างนะครับ กับร้าน King’s Palace Congee and Noodle Bar เพราะที่ฮ่องกงเอง ก็เปิดบริการมาเกือบ 20 ปีแล้ว และมีอยู่ด้วยกันถึง 5 สาขาในย่านสำคัญๆในฮ่องกง และที่ประเทศไทย ถือเป็นสาขานอกเกาะฮ่องกงสาขาแรกเลยครับ เพราะทางเจ้าของร้านชอบเมืองไทยมาก เลยถือโอกาส นำอาหารฮ่องกงแท้ๆ มาให้คนไทยได้ลิ้มรสกัน โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงฮ่องกงครับ เมนูของร้านนี้ ก็เป็นอาหารพื้นๆทั่วไปที่เราสามารถพบเจอได้ตามท้องถนนทั่วไป ทั้งในฮ่องกงและไทยครับ แต่ทางร้านเพิ่มความพิถีพิถันเข้าไป และเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี เพื่อยกระดับอาหารธรรมดาๆ ให้ดูดีขึ้นและน่าทานขึ้น โดยได้เชพจากฮ่องกงแท้ๆ เป็นผู้รังสรรค์มื้ออาหารให้เราได้ทานกันครับ

.

.

 **** บรรยากาศ King’s Palace ****

 

ตัวร้าน King’s Palace ตกแต่งเป็นโทนไม้ออกขรึมๆ ภูมิฐานหน่อยครับ มีที่นั่งรองรับลูกค้าได้เกือบ100ที่ และที่นี่มีห้องรับรองไว้ให้บริการอีก1ห้องด้วยครับ เผื่อใครต้องการความเป็นส่วนตัว

.

.

**** เมนู King’s Palace ****

อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า เมนูในร้านเป็นเมนูเบสิคธรรมดาๆทั่วไป ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป อย่างเมนูหลักๆ ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ โจ๊กและบะหมี่ ตามชื่อร้านเลยครับ หลักๆที่ผมสั่งทานวันนี้ ก็จะเป็นโจ๊ก และเมนูเส้นทั้งหลายครับ เริ่มจากโจ๊กลูกชิ้นหมูสูตรฮ่องกงใส่ไข่เยี่ยวม้า (225+บาท)

โจ๊กของ King’s Palace เป็นโจ๊กต้นตำรับจากฮ่องกงแท้ครับ ชามค่อนข้างใหญ่เอาเรื่องอยู่ เนื้อโจ๊กเนียนและนุ่มมากๆครับ ไม่เห็นเป็นตัวข้าวเลย ซึ่งข้อนี้น่าจะเป็นข้อแตกต่างระหว่างโจ๊กไทย และโจ๊กฮ่องกงครับ ตัวหมูก้อนจะคล้ายๆหมูเด้งมากกว่า ซึ่งทางร้านเรียกลูกชิ้นหมู แต่ความรู้สึก ผมมันอาจจะไม่ถึงขนาดเป็นลูกชิ้น อาจจะแค่นวดๆๆหมูให้แค่พอเด้งเท่านั้น แต่รสสัมผัสของหมู ยังอยู่ครบเต็ม ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นแป้งเหมือนลูกชิ้นหมูทั่วๆไปครับ
หมูมาชิ้นใหญ่ เกือบจะล้นออกปากแล้วครับ และให้มาเยอะมากๆ ส่วนไข่เยี่ยวม้า ถูกซ่อนตัวไว้อยู่ก้นชาม ไข่มาฟองไม่ใหญ่ครับ โรยหน้าด้วยขิง และต้นหอมซอย เมนูโจ๊กของที่นี่ สามารถเปลี่ยนเป็นหมูฝอย เห็ด ตับ กระเพาะ ไก่เนื้อวัว ปลา กุ้ง หอยนางรม หรือแม้กระทั่งเป๋าฮื้อครับ หรืออาจจะ Mix and Match ได้ตามใจชอบเลย ราคาโจ๊กเริ่มต้นตั้งแต่ 190 บาท ไปจนถึง 700 บาทครับ แต่ถ้าเป็นเมนูเป๋าฮื้อแบบเป็นหม้อ ทานทั้งครอบครัวราคาก็จะสูงสุดอยู่ที่ 960 บาท

.

.

ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ King’s Palace (160+บาท) เมนูนี้ อาจจะไม่ใช่เมนูที่คนไทยคุ้นชินเท่าไหร่ครับ แต่สำหรับอาหารจีนแล้ว ถือว่านิยมมากๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเมนูโปรดของผมเมนูนึงเลยครับ ซึ่งขั้นตอนและวิธีการทำ ก็ดูแล้วออกจะง่ายและดูไม่ยุ่งยากเลยครับ ตัวแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดนุ่มมากๆ กับไส้ปาท่องโก๋ ที่ยังคงความกรอบอยู่ตอนเคี้ยว ราดด้วยซอสสูตรของทางร้าน อร่อยเลยครับ เมนูนี้สามารถเลือกไส้อื่นได้ทั้งห่านอบ หมูแดง หรือหมูกรอบ กุ้ง เนื้อวัว ตับ หรือจะผสมกันก็ได้นะครับ

.

.

ห่านอบ King’s Palace (430บาท) เป็นอีกเมนูที่ขาดไม่ได้เลยครับ สำหรับร้านนี้  ทีแรกผมนึกว่าใช้วิธีย่างครับ เลยถามทางร้านไป จึงได้คำตอบว่าที่นี่ใช้อบทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นห่าน หมูแดง หรือแม้กระทั่งหมูกรอบครับ (ร้านนี้ไม่มีเป็ดขายนะครับ)  เมนูนี้ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อจริงๆ อบออกมาได้หนังกรอบกำลังดี เนื้อก็หอมหวานดีครับ อร่อยเลย เมนูนี้ถ้ามาเป็นครอบครัวใหญ ก็สามารถสั่งแบบเป็นครึ่งตัวก็ได้ครับ (990บาท)

.

.

บะหมี่แห้งขาหมูตุ๋น(220+บาท) เมนูนี้ จะแยกน้ำซุปให้มาด้วยถ้วยนึงนะครับ ตัวขาหมูจะเป็นส่วนขาล่างครับ ซึ่งเนื้อจะน้อย จะเป็นหนังและเอ็นมากกว่า รสชาติออกจะเค็มๆไปซักนิดนึงสำหรับผม รวมถึงน้ำที่ราดมาบนเส้นด้วย เส้นก็ออกจะแข็งไปซักหน่อย อาจจะเป็นเพราะมัวแต่ถ่ายรูปมั้งครับ กว่าจะได้ทานกัน 5555 ถ้าออกมาตอนร้อนๆ แล้วทานเลยคงดีกว่าไม่น่้อยครับ

.

.

บะหมี่น้ำเกี้ยวกุ้งสด (190+บาท) เมนูนี้เป็นเมนูเบสิคมากๆครับ แต่ส่วนตัวชอบ และติดใจเส้นบะหมี่ที่เป็นเส้นเล็กๆแบบนี้ พอเส้นมาอยู่ในซุปก็จะนุ่มดีครับ ไม่เหมือนเมนูที่เป็นบะหมี่แห้ง เกี้ยวกุ้งของที่นี่แป้งบาง และตัวใหญ่เต็มปากมากๆครับ เท่าที่ผมสัมผัสได้น่าจะมีกุ้งสองตัวนะครับ รสชาติดีครับ

.

.

บะหมี่น้ำหมูแดง/หมูกรอบ (300+บาท) เมนูนี้ เป็นบะหมี่น้ำ แยกมากับหมูแดง หมูกรอบครับ ตัวหมูแดงรสชาติเข้มข้นดี แต่คนที่ไปทานด้วย เค้าติดว่าเค็มไป เพราะเค้าอาจจะทานเปล่าๆก็ได้ แต่ส่วนตัวผมทานกับเส้น และน้ำซุปมันเลยพอดีครับ ส่วนหมูกรอบก็กรอบอร่อยดี แม้จะทิ้งไว้พอสมควรแล้ว ก็ยังกรอบดีครับ
น้ำซุปของที่นี่ ใช้กระดูกหมูมาต้มกับเปลือกกุ้งและหัวกุ้ง พร้อมกับปลาตาเดียวตากแห้ง และขิงแก่ครับ นำมาตุ๋นและเคี่ยวรวมกันแบบไม่ปิดฝาครับ น้ำซุปของที่นี่ เลยหวานและกลมกล่อมธรรมชาติ มากๆครับ

.

.

****เครื่องดื่ม King’s Palace ****

เครื่องดื่มจะเป็น เก็กฮวยรีฟิว (55+บาท) ใครชอบเก็กฮวยแบบหวานๆ ผิดหวังแน่นอนครับ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นเก็กฮวย แต่ไม่ชอบหวานก็น่าจะโอเคครับ ส่วนตัวผมชอบแบบไม่หวาน หรือแบบที่ไม่ใส่น้ำตาลมาเลยครับ ร้านอาหารหรือโรงแรมหลายๆที่ ก็จะแยกน้ำเชื่อมมาให้เติม แล้วแต่ความหวานตามชอบได้ครับ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะไม่ใส่น้ำเชื่อมเลยด้วยซ้ำ
ส่วน ชามะนาว(110+บาท) แก้วนี้มารสชาติอ่อนและบางจริงๆครับ ชาไม่เข้มข้น มะนาวไม่ถึง หรือนี่เป็นสูตรฮ่องกง ที่เราคนไทยอาจจะไม่คุ้นชินก็ได้ครับ เพราถ้าเป็นชามะนาวบ้านเรานี่รสชาเข้มข้น เปรี้ยวหวานนำเข้มข้นมากๆ แม้น้ำแข็งจะละลายไปแล้วครึ่งแก้วก็ตาม 55555

.

.

****สรุป****

King’s Palace รวมๆแล้วอาหารค่อนข้างดีครับ หลายเมนูผมชื่นชอบมากๆด้วย บางเมนูอาจจะมีข้อด้อยนิดๆหน่อยๆ ส่วนเรื่องบริการจากพนักงานผมว่ายังเป็นข้อเสียสำหรับผมเลยครับ พนักงานให้ความสนใจในตัวลูกค้าน้อยไปหน่อย ผมเรียกหลายครั้งมากๆ ก็จะสนใจและเดินมาบริการ หรืออาจจะเพราะไม่มีService Charge มั้งครับ ทั้งหมดนี้ตัวผมเองเป็นคนตัดสินด้วยตัวผมเอง ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจและอาจจะไม่เหมือนความคิดคนอื่นๆที่ได้ไปลองนะครับ ร้านนี้ไม่มี Service charge มีแค่Vat 7%ครับ

.

**** พิกัด & ติดต่อ King’s Palace ****

ร้าน King’s Palace Congee and Noodle Bar อยู่ชั้น2 ของK Village ครับ ถ้าขึ้นบันไดเลื่อนจากทาง Gourmet Market มาก็จะเจอร้านอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยครับ
http://www.kvillagebangkok.com/portfolio/kings-palace/
http://www.kingspalace.com.hk/
เวลาทำการ : 11:30 AM – 10:00 PM
โทร : 02-661-5042

(188)

Facebook Comments

Views: 35

Exit mobile version