L’Atelier de Joel Robuchon (ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง) @ คิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์
Let’s Eat รีวิว : ร้านของเชฟ Joel Robuchon เชพที่ได้มิชลิน สตาร์มากที่สุดในโลก
เชฟ Joel Robuchon เป็นเชฟได้รับรางวัล Chef of the Century จากGault et Millau และเป็นเชฟที่ได้มิชลิน สตาร์มากที่สุดในโลกถึง25ดาว จากร้านอาหารฝรั่งเศสที่เชฟดูแลอยู่ทั่วโลกอย่าง L’Atelier de Joel Robuchon ที่ลอนดอน ปารีส บอร์กโดซ์ โมนาโก ลาสเวกัส โตเกียว ฮ่องกง ไทเป มาเก๊า สิงคโปร์และกรุงเทพครับ
ร้าน L’Atelier de Joel Robuchon อยู่ที่ชั้น5 Mahanakon Cube ถนนนราธิวาสฯ การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว สามารถจอดรถที่ชั้นใต้ดินได้เลย และBTS ลงสถานีช่องนนทรี ลงสถานีมาก็จะเจอตึกเลยครับ สะดวกมากๆ
.
****บรรยากาศ L’Atelier de Joel Robuchon ****
.
บรรยากาศร้านจะเป็นโทนค่อนข้างเคร่งขรึมพอสมควร เน้นโทนที่เป็นสีดำ แดงเป็นหลัก ร้านนี้จะเป็นร้านแบบ Fine Dining มีที่นั่งที่เป็น The Counter มีที่นั่งรองรับได้25ที่ ส่วนนี้สามารถมองเห็นเชฟและทีม รังสรรค์แต่ละเมนูให้เราทานได้อย่างชัดเจน หรือจะนั่งโซนด้านในที่เป็น La Terrace จะมีโต๊ะรองรับอยู่ประมาณ4-5โต๊ะ
รวมถึงห้องรับรองที่มีสองขนาดอย่าง Crystal Room เป็นหนึ่งในห้องส่วนตัวรองรับลูกค้าได้ประมาณ4-5ที่และสุดท้ายเป็น Mahanakorn Room ซึ่งเป็นห้องใหญ่สุด รองรับลูกค้าได้6คนครับ โดยโซนด้านในมีค่าใช้จ่ายด้วย
.
****เมนู L’Atelier de Joel Robuchon ****
.
เริ่มต้นมือด้วยขนมปังของทางร้านซึ่งมีด้วยกัน6 แบบ ซึ่งจะแบ่งเป็น2แบบคือ Hard Bread จะเป็นขนมปังแบบเนื้อจะออกเหนียวๆหน่อย หรืออาจจะเป็นกรอบนอกนุ่มใน และSoft Bread จะออกแนวนุ่มและหอมมากๆ ผมลองครบทุกแบบเลยครับ อร่อยทุกตัวเลย
.
*** POUR COMMENCER ***
เป็น Chilled Green Kale Veloute with spicy tomato jelly เป็นตัวเรียกน้ำย่อยตัวแรก ซึ่งทำเป็นlayer จากล่างสุดเป็นเจลลี่มะเขือเทศ และชั้นบนทำจากผักKale เป็นผักใบเขียวตระกูลเดียวกับคะน้า
ทางร้านบอกให้ทานพร้อมกันทุกชั้น เพื่อจะได้รสชาติที่ผสมผสานกันชัดเจน รสชาติจะเป็นมะเขือเทศค่อนข้างชัดมักๆและมีกลิ่นผักเขียวเข้ามาผสม บวกกับมีรสเผ็ดบางๆผสานเข้ามาอีกหน่อย
.
*** LE KING CRAB ***
เป็น King Crab and Avocado Roll on a delicate grapefruit Jelly จานนี้จะเป็น King Crab ห่อด้วยอโวคาโด จัดวางบนเจลลี่ที่ทำจาก Grapefruit ส่วนตัวคิดว่าพระเอกน่าจะเป็น King Crab แต่พอทานไปผมรู้สึกได้แต่อโวคาโดที่โดดเด่นออกมากลบทุกอย่างเลย
ผมทานไปแทบจะไม่รับรู้ความรู้สึกของเนื้อ King Crabเลย หรือจริงๆแล้วอโวคาโดคือพระเอก ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าดีเลยครับ ส่วนตัวเจลลี่ที่ทำจากgrapefruit จะออกหวานนิดๆฝาดหน่อยๆเปรี้ยวปลายๆ ผสมกันมาแล้วรสชาติแปลกดีครับ
.
*** LA CERISE ***
เป็น Cherry gazpacho with ricotta cheese and roasted pistachio ที่นี่จะอิงวัตถุดิบและเมนูจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหน่้าร้อนก็จะเสิร์ฟเป็น Cold soup และวัตถุดิบที่หลักๆก็จะเป้นมะเขือเทศผสมด้วยเชอร์รี่
เมนูนี้ก็จะเป็นซุปมะเขือเทศค่อนข้างเข้มข้น ผมลองชิมที่ตัวซุปก่อนคำแรก ได้รสมะเขือเทศจัดพอสมควร แต่พอทานคู่กับ ricotta cheese ก็ช่วยตัดรสของมะเขือเทศได้ดี ทำให้ตัวซุปนวลขึ้นมากเลยครับ ในเมนูนี้จะมี pistachio ประดับมาด้วย
.
*** LA CAILLE ***
เป็น Free range quail stuffed with foie gras served with potato puree and herb salad เป็นตัว main course ที่ดูดีเลยทีเดียวครับ จะเป็นนกกระทา สอดไส้ด้วย foie gras เนื้อเนื้อนกกระทานุ่มและหอมมากๆ ทานคู่กับ foie gras ที่อยู่ด้านในแล้ว ละมุนจริงๆ
เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดในสไตล์ที่เป็นแบบฝรั่งเศส คือเค้าจะกรองให้เนื้อมันบดละเอียดมากๆ ต่างจากมันบดสัญชาติอื่นๆที่อาจจะแค่บดละเอียดหรือบดหยาบแค่นั้น และยิ่งได้กลิ่นหอมของเนยที่คลุกเคล้าเข้ามาด้วยแล้ว อร่อยมากๆครับ (ผมแอบเติมมันบดเพิ่มอีกหน่อยด้วยครับ)
**** Dessert L’Atelier de Joel Robuchon ****
*** FLEUR CARAMEL ***
เป็น Caramel Lightness, Tangerine jelly and sorbet เป็นขนมปิดท้ายที่สุดยอดจริงๆ เป็นคาราเมลเนื้อนุ่มและไม่หวานจนเกินไป แอบมีตัดเปรี้ยวด้วยเจลลี่ส้ม และsorbetเบาๆ และแอบมีก้อนสีทองๆ รสออกหวานวางอยู่รายรอบ วางท้อปบนด้วยแผ่นคาราเมลอีกชั้นนึง
.
จบด้วย Caramel Chocolate ไส้ทะลัก หวานไปหน่อยสำหรับผม แต่ทานกับespresso ซัก Shot ลงตัวดีครับ
.
**** สรุป ****
รวมๆอาหารFull course ทุกเมนูที่เสิร์ฟมาค่อนข้างจะเบาๆ ทานง่ายๆ มาจานละนิดละหน่อย เหมือนจะไม่อิ่ม แต่ก็อิ่มแบบไม่หนักท้องดี หรืออาจจะเพราะทานขนมปังคู่กันไปก็ได้
-ส่วนการตกแต่งจานและความพิถีพิถันของแต่ละเมนูทำออกมาได้ดีและลงตัวครับ
-การบริการจากพนักงานที่มีอยู่ค่อนข้างมาก ให้เอาใจใส่ ให้คำแนะนำ และเป็นกันเองดี
-รสชาติอาหาร โดยส่วนตัวผมมีทั้งชอบและไม่ชอบครับ แต่เรื่องความประทับใจโดยรวมถือว่าดีครับ
**** รายละเอียด L’Atelier de Joel Robuchon ****
L’Atelier de Joel Robuchon อยู่ที่ชั้น5 Mahanakon Cube ถนนนราธิวาสฯ การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว สามารถจอดรถที่ชั้นใต้ดินได้เลย และBTS ลงสถานีช่องนนทรี ลงสถานีมาก็จะเจอตึกเลยครับ สะดวกมากๆ
ร้านเปิดสองช่วงเวลาครับ
Lunch : 11:30 am – 2:30 pm
Dinner : 6:30 pm – 10:30 pm
โทร : 02-001-0698
http://www.joelrobuchon.co.uk/
http://www.joel-robuchon.com/fr/
(65)
Facebook Comments
Views: 5