LOVE ME TENDER le Bistro
LOVE ME TENDER le Bistro ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารแบบ French European Bistro ร้านนี้มีจุดเด่นที่ การใช้วัตถุดิบทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา และเนื้อแกะ ผ่านขั้นตอนการ ซูวี (Sous-Vide) ซึ่งการซูวี หมายถึงการปรุงอาหารให้สุก ด้วยอุณหภูมิต่ำ ในถุงสูญญากาศ ทำให้รักษาความสด และรสชาติของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี
ร้านนี้จะนำเข้าวัตถุดิบ แบบปรุงสำเร็จจากนำเข้าอเมริกา และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย แสดงว่าหลายๆ เมนูที่ทาน ก็คือฝีมือของเชฟระดับโลกอย่าง Bruno Burtin ที่ควบคุมสูตรในการปรุง บรรจุใส่ถุง แล้วทางร้านก็นำมาแค่อุ่น เป็นการลดขั้นตอน ของการปรุงอาหารของทางร้านได้เยอะทีเดียว
***************
บรรยากาศ LOVE ME TENDER le Bistro
***************
ร้าน Love Me Tender le Bistro ตกแต่งในบรรยากาศด้วยโทนสี ขาว แดง ดำ ดูขรึมๆ ในแบบเรียบง่าย แบบ French Bistro มีที่นั่งรองรับประมาณ 30++ ที่ได้ครับ มีมุมนึงของที่ร้าน ที่ไม่เปิดโซนบริการไปด้วย
***************
เมนู LOVE ME TENDER le Bistro
***************
เมนูของ LOVE ME TENDER le Bistro มีไม่เยอะมากครับ ตามแบบร้านที่เป็น bistro ทั่วๆไป ที่เสิร์ฟเมนูอยู่ไม่กี่อย่าง และจะมีเมนูอาหารประจำวันด้วย ที่นี่จะทำเป็นส่วนลด ของเมนูแต่ละวันด้วย
.
.
1. Fire Roasted Pepper au Salmon (฿180+) ★★★★ ทางร้านจะเสิร์ฟมาในกระปุกแก้ว แล้วก็จะเขย่าส่วนผสมเข้าด้วยกัน ก่อนจะเทลงจานทรงยาวให้ครับ เมนูนี้เป็นสลัดแซลมอน พริกหวาน และแอลมอนสไลด์ รสออกหวานๆ ทานง่ายๆดีครับ มีแซลมอนสไลด์เพิ่ม Texture เพิ่มความกรุบกรอบบางๆเข้าไปด้วย
.
.
2. Fried Flat Iron on Parade (฿360+) ★★★ เนื้อจะมีให้เลือกทั้งหมู แกะ ไก่ และเนื้อวัว ซึ่งทั้งหมดเป็นเนื้อซูวี (Sous Vide) ใครไม่ทานเนื้อประเภทไหน ก็สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ เมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนู Starter ทานเล่นๆ เพิ่มลูกเล่นด้วยการให้เอาเพลทเหล็กมา ให้เราเอาบรรดาเนื้อสัตว์ทั้งหลาย มาขึ้นเตาผ่านความร้อนอีกรอบ จริงๆเนื้อแต่ละประเภทก็เกือบๆจะสุกแล้ว
เมนูนี้เสิร์ฟมากับซอส 3 แบบ คือ
1. Sweet Chilli Sauce หรือน้ำจิ้มไก่ดีๆนี่เอง
2. น้ำจิ้มแจ่ว
3. Red Wine Gravy พร้อมกับ Salad
ตัวเนื้อ Sous Vide จะเสิร์ฟไว้ไหนกระทงที่เป็นเกี๊ยวกรอบ ผมไม่ทานไก่ เลยขอสลับสับเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมาแทน ทางร้านเลยเอาเนื้อหมูมาแทน รวมๆ ตัวเนื้อวัวจะออกมาชิ้นเล็กๆ เนื้อหมูออกจะมีกลิ่นเล็กๆด้วย ส่วนเนื้อแกะก็ปกติครับ
.
.
3. Grilled Pork Paisano Steak (฿300+) ★★★ ใช้สเต็กหมูส่วนสันคอ เสิร์ฟมากับซอสเห็ดมอเรล และผักรวมย่าง ตัวสันคอหมู ก็นุ่มเป็นปกติดีอยู่แล้วครับ ตัวหมูจริงๆก็แทบไม่มีรสชาติอยู่แล้ว ถ้าได้ตัวซอส ที่มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้นมาหน่อย จะเสิรมได้ดี ตัวซอสออกจะจืดๆ บางๆไปหน่อย เมนูนี้เลยดูรวมๆชืดๆไปหมด
.
.
4. Beef Bourguignon with Pasta (฿420+) ★★★ เป็นสตูเนื้อน่องลาย ตุ๋นซอสไวน์แดง เสิร์ฟคู่กับพาสต้า ผักกับน้ำมันมะกอก และกระเทียมหอมดีครับ ส่วนตัวซอสของสตูอร่อยดีครับ ได้หลิ่นไวน์อ่อนๆด้วย ตัวเนื้อที่ร้านบอกเป็นเนื้อน่อง ที่จะมีมันแทรกๆอยู่ แต่จริงๆ ผมเจอชิ้นที่เป็นเนื้อน่องอยู่นิดหน่อยเอง แต่เจอเนื้อชิ้นที่เป็นเนื้อสันอยู่ด้วย คือถ้าใช้เวลาการตุ๋นเท่าๆกัน ส่วนอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสันก็นุ่ม เปื่อยดีมากๆอยู่แล้ว แต่ตัวเนื้อสันยังแข็ง เหนียว เคี้ยวยากอยู่มากๆ และผมเจอหลายชิ้นอยู่ครับ ทานไปเลยค่อนข้างสะดุดเลย เพราะความแข็งและเหนียวจริงๆ
***************
สรุป
***************
LOVE ME TENDER le Bistro เสิร์ฟอาหาร French European Style ที่ราคาไม่แพงครับ มีเมนูหลักๆอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ละอย่างทานง่ายๆ ร้านนี้ไม่มี Service Charge นะครับ การบริการของที่ร้านก็ดูกระตือรือร้นดี
1. ผมซื้อ Voucher มาจากทางวงใน 5 ใบราคา 250 บาท ใช้ได้ 400 ได้ ก็รวมๆผมจ่าย 1,250 บาท ทานได้ 2,000 บาท แต่มีข้อกำหนดว่า ใช้ Voucher ได้ตามจำนวนคนที่มาทาน ผมไปทาน 2 คน ใช้ได้ 2 ใบ คือจ่าย 500บาท ใช้ได้ 800 บาท ผมไปทาน 1,320 ต้องจ่ายเพิ่มอีก 800+ เท่ากับมื้อนี้ผมจ่ายจริง 1,056.40 บาท (รวม Vat เข้าไปด้วย) ทำให้เหลืออีก 3 ใบซึ่งผมอาจจะไม่ไปใช้บริการแล้วแน่ๆ ทางร้านบอกว่า ให้มาทานคราวหน้าก็ได้ ผมก็คิดว่าผมต้องมาอีก 2 รอบเลยเหรอ ถึงจะใช้สิทธิ์ได้หมด ทั้งหมดนี้เพราะด้วยความที่ไม่ละเอียด และความผิดพลาดของผมเอง ที่ไม่อ่านรายละเอียดให้ละเอียดพอ
.
ผมตั้งข้อสังเกตุ ถ้าอยู่ตัวคนเดียว ก็ซื้อใบเดียวก็พอ อยู่สองคนก็ซื้อแค่สองใบ แต่ถ้าไม่มีข้อจำกัด มาทานคนเดียว อาจจะซื้อ 2-3 ใบก็ได้ ซ้ำร้ายบางร้านซื้อแล้ว สามารถใช้ได้ 1 โต๊ะต่อ 1 ใบเท่านั้น
.
แต่ก็เข้าใจทางร้านเพราะถ้ามา 2 คนใช้ได้แค่ 2 ใบ ที่เหลือก็ต้องจ่ายส่วนต่างให้ทางร้าน ทางร้านก็เสียผลประโยชน์น้อยมาก ฉะนั้นดีลของทางวงใน ดูแล้วไม่ค่อย Friendly กับ user ซักเท่าไหร่เลย
.
.
2. ช่วงที่ผมทานเมนู Fried Flat Iron on Parade ผมก็ขอเมนูมาเพื่อที่จะดูว่าจะสั่งอะไรเพิ่ม และจะได้ดูข้อมูลของแต่ละเมนู มาประกอบกาารเขียนรีวิว เลยต้องดูเมนูด้วย ถ่ายรูปด้วย และคอยดูบนเตา คอยกลับเนื้อ กลัวไหม้ด้วย ทางพนักงานก็คอยมาเก็บเมนูอยู่ตลอด ผมก็ขอมาใหม่อยู่เรื่อย รวมๆแล้ว 3 รอบได้
.
จนรอบสุดท้ายพนักงานบอกว่า อย่าวางอะไรบนเมนูนะคะ เพราะเดี๋ยวเมนูจะเลอะ สกปรก ผมก็สตั้นนิ่งไปเลย ทั้งๆที่ผมไม่ได้วางอะไรบนเมนูเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เปิดมันทิ้งไว้ แล้วก็สลับการถ่ายรูป การดูเตา ค่อนข้างอึ้ง!!!!! กับคำพูดของพนักงานมากๆ ผมเลยปิดเล่มเมนู แล้วไปวางที่สุดปลายโต๊ะอีกฝั่งนึง แต่รอบนี้ก็ไม่มีใคร เข้ามาเก็บเล่มเมนูจนจบมื้อเลย
.
.
3. ระหว่างท้ายมื้ออาหาร ผมถามพนักงานว่า ตัวมะเขือเทศนี้ ใช้ส่วนประกอบอะไรบ้าง ใส่ชีสอะไรมั้ย
พนักงาน : พนักงานพยายามจ้องดู เพ่งดู แล้วค่อยๆตอบผมว่า มีเกร็ดขนมปังค่ะ
dDs : แล้วใส่ชีสอะไรด้วยมั้ยครับ
พนักงาน : อืมมม ไม่แน่ใจค่ะ ไม่น่ามีนะคะ
dDs : รบกวนถามเชฟให้หน่อยได้มั้ยครับ
พนักงาน : ทำหน้าอึกอัก บอก อ๋อ ไม่ได้ค่ะ เพราะบางร้าน เค้าจะไม่บอกสูตรของทางร้านนะคะ มันเป็นความลับ
dDS : รวมถึงร้านด้วยใช่มั้ยครับ
พนักงาน : ค่ะ
dDs : เอ่อออออ นิ่งๆ อึ้งๆ ต่อไปนี้จะไม่ก้าวก่าย ความลับของร้านไหนอีกแล้วครับ
dDs : งั้นเช็คเลยครับ
***************
พิกัด & ติดต่อ LOVE ME TENDER le Bistro
***************
ร้าน Love Me Tender e Bistro อยู่ อเวนิวเล็กๆ ชื่อ TTN Avenue อยู่ถนนนางลิ้นจี่ ชั้นล่างจะเป็น TOPS ครับ สังเกตุง่ายๆ ถ้ามาจากถนนรัชดา-พระราม 3 ขาเข้า เลยแยกตัดถนนนราธิวาสมา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน นางลิ้นจี่ประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอ TNN Avenue อยู่ซ้ายมือเลยครับ จอดรถแล้วเดินขึ้นชั้น 2 เลย
โทร : 02 678 2048
Opening Hours : 11:30 – 14:00 และ 17:30 – 22:00
Facebook : https://www.facebook.com/lmt.lovemetenderlebistro/
(117)
Views: 22