Site icon LET'S EAT THAILAND กินกับเดี่ยวเที่ยวกับมด

Sava Dining :ลองเมนูใหม่สไตล์East meets West

Spread the love

Sava Dining @ Emquatier ชั้น 6

Let’s Eat ลองเมนูใหม่สไตล์ Sava Dining

 

ผมเคยมาเยี่ยมเยียนร้านนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ช่วงที่เปิดร้านใหม่ๆเลยครับ หลายๆอย่างในครั้งนั้น ยังไม่ค่อยลงตัวซะทีเดียว เลยหลับมาลองใหม่อีกที กลับมาคราวนี้หลายๆอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

.

.

**** บรรยากาศร้าน Sava Dining ****

.

บรรยากาศร้านยังคงคล้ายเดิม ตำแหน่งโต๊ะยังคงที่เดิม แต่มีส่วนที่เสริม เพิ่มเติมเข้ามา จะเป็นดอกไม้ ใบหญ้า ที่มาประดับตกแต่ง ให้ดูไม่แห้งจนเกินไป เพิ่มความสบายตาขึ้นได้เยอะเลยครับ ผมพยายามเก็บภาพบรรยากาศมาให้ แต่เนื่องด้วยมีแขกของทางร้านยังคงหนาตาอยู่ ถึงแม้จะ 2 ทุ่มกว่าๆแล้วก็ตาม เลยเก็บมาได้แต่ขอบโต๊ะ ขอบร้านแทน เพื่อความเป็นส่วนตัว ผมเลยไม่อยากถ่ายให้ติดภาพแขกของทางร้านครับ

.

.

.

 **** เมนูใหม่ Sava Dining ****

.

อย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่แรกว่า กลับมาคราวนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แล้วอีกอย่างที่เสริมเพิ่มเติมเข้ามาก็จะเป็น “เมนูใหม่” ของทางร้านครับ ทางร้านจะทำเมนูแยกออกมาเป็นใบเดี่ยวๆ นอกเหนือจากเมนูเดิม แยกไปอีกใบเลยครับ
.
1. เห็ดชิทาเกะคลุกเกล็ดขนมปังทอด (160บาท) ดูจากชื่อแล้ว ผมไปนึกถึงเกล็ดขนมปังแบบหยาบๆที่ไว้ชุบหมูทอดทงคัทสึ อะไรทำนองนั้นครับ แต่พอยกเสิร์ฟออกมาก็แปลกใจจากที่คิดไว้ เกล็ดขนมปังเป็นแบบละเอียดมา ทานแล้วกรอบนอกหนึบในดีครับ ทานแล้วไม่รู้สึกอมน้ำมันเลยครับ เสิร์ฟมาคู่กับ Creamy Italian Dipping Sauce

. .

.

2. ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ ซอสเปรี้ยวหวานแบบจีน (240บาท) เมนูนี้มองเผินๆ เหมือนอิตาเลี่ยนเพรสโต้ซอสเลยครับ แต่ซอสที่นี่จะเป็นผักชีปั่นละเอียดแทนครับ ออกเปรี้ยวๆโดด โรยหน้ามาด้วยแฮมและกุนเชียงครับ

. .

.

3. แกงลาวผักรวม น้ำซุปปลาแห้งใบย่านาง (250บาท) เมนูนี้เป็นแกงเหมือนแกงเปรอะ แกงเห็ดครับ แต่ของทางร้าน จะไม่ใส่ปลาร้า แล้วน้ำซุปก็จะเป็นน้ำซุปปลาแห้ง หน่อไม้ครับ เป็นเมนูเพื่อสุขภาพจริงๆครับ ร้านนี้ใส่พริกเม็ดโดดๆ มาเยอะเหมือนกันครับ เลยจะออกเผ็ดๆ น้ำซุปผมว่าบางๆไปซักหน่อย หรืออาจจะเพราะเราติดกับรสของร้านส้มตำทั่วๆไป ที่จัดเต็มเค็มเข้มได้ใจ เลยเคยชินไปซะแล้วก็เป็นได้
เสิร์ฟมากับโปเลนต้าย่างเนย โปเลนต้าเป็นอาหารคาร์โบไฮเดรต ทานแทนข้าว พาสต้า บางร้านจะทำออกมาเหมือนพวกมันบดครับ ทำจากเกร็ดข้าวโพด แต่ที่นี่เอามาเป็นชิ้น แล้วเอามาย่างเนยอีกทีครับ มี Port wine Sauce รสชาติบางๆ วางเสริมเสิร์ฟคู่กันครับ (แต่มองไปมองมาเหมือนขนมผักกาด กับซีอิ้วดำมากๆเลยครับ 555)

.

.

.

4. เส้นคาแปลินี่ผัดแหนม (290บาท) เส้นคาแปลินี่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่ถ้าบอก Angel Hair หลายคนน่าจะคุ้นมากกว่า โดยเฉพาะร้านอาหารในไทย Angel Hair เป็นเส้นที่ส่วนตัวผมชอบที่สุดเลยครับ เพราะซอสที่ใช้ปรุงกับเส้นชนิดนี้ก็จะบางๆ เบาๆ ไม่ข้นมาก เส้นยิ่งหนาใหญ่ ความเข้มข้นของซอสก็จะเพิ่มมากขึ้นครับ แต่นี่เป็นแค่หลักการณ์นะครับ ในความเป็นจริงใครอยากสั่งเส้นอะไร มาผสมกับซอสอะไรก็ย่อมได้ครับ
เมนูนี้เอาเส้นไปผัดกับไข่ กระเทียมโทน ดอกขจรและแหนมครับ แหนมหั่นมาค่อนข้างละเอียด จะได้ทานโดนแหนมในทุกคำที่ตักทาน โรยหน้าด้วยเบคอน เพิ่มความกรุบกรอบเข้าไปอีก เมนูนี้ผมชอบนะครับ อร่อยดี เป็นอีกหนึ่งฟิวชั่นจากร้าน ที่เอามาบรรจบกันได้อย่างลงตัวดีครับ

.
.

.

5. ข้าวต้มแห้งปลากระพงทะเล (320บาท) เสิร์ฟมาหน้าตาเหมือน Risotto เลยครับ แต่จริงๆแล้วก็เป็นข้าวต้มแบบแห้ง ข้าวไทยๆ ปรุงรสแบบไทยๆ ใส่หมูหวานบะเต็ง และหมูผัดไข่ แล้วแยกน้ำซุป กับน้ำมันขิงและต้นหอม เพิ่มความหอมให้เมนูนี้ได้ดีเลยครับ ส่วนปลากระพงเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่ เต็มจานมากๆ แต่เสียอย่างเดียว ทางร้านน่าจะเอาก้างออกให้หมดครับ ผมโดนก้างไปสองสามคำอยู่เหมือนกัน

.

.

.

6. ข้าวหน้าเนื้อวากิวออสเตรเลียย่างแจ่ว (690บาท) เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มแจ่ว และตะกร้าผัก เมนูนี้เหมือนข้าวหน้าเนื้อวากิว ที่หมักกับแจ่ว ก่อนนำมาย่างแล้วครับ เนื้อวากิวชิ้นใหญ่ๆ เสิร์ฟมา5-6ชิ้น แต่ละชิ้นต้องแบ่งทานสองคำครับ เนื้อนุ่มมากๆ สไตล์วากิวอยู่แล้วครับ ผมทานแบบไม่ต้องจิ้มแจ่วเพิ่มแล้วครับ ข้าวที่เสิร์ฟมาก็นุ่มมากๆด้วย

.

.

.

**** จากเมนูเก่า Sava Dining ****

.

7. Warm Waffle with Crispy Duck Leg (350บาท) เมนูนี้หลายๆร้าน ก็อาจจะใช้ชื่อที่ต่างกันนะครับ บางร้านอาจจะแค่ Duck & Waffle บางร้านอาจจะ Duck Confit Waffle แต่รูปแบบแล้วก็ไม่ค่อยต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับว่าใครจะรังสรรค์ความแปลกใหม่ เพื่อเพิ่มความแตกต่างให้เมนูดูน่าสนใจมากกว่ากันเท่านั้นเองครับ เมนูนี้เป็นเมนูที่อยู่ในเมนูเก่าของทางร้าน ที่คราวที่แล้วผมไม่ได้ลอง
ตัว Waffle ทำออกมาไม่หวานเกินครับ เคยเจอบางร้านทำออกมาหวานเกินครับ ตัวซอส Chocolate ร้านนี้จะหยอดตกแต่งไว้รอบจานเลย เสิร์ฟมากับเบคอนทอดกรอบ ตัวเป็ดยังไม่ยังไม่ค่อยกรอบสมชื่อเท่าไหร่ครับ ถ้าเป็ดเนื้อนุ่ม หนังกรอบกว่านี้น่าจะดีไม่น้อยเลยครับ

.

.

.

**** เครื่องดื่ม Sava Dining ****

.

Strawberry Black Tea (110บาท) แก้วนี้หอมชาดีครับ มีกลิ่นใบมิ้นต์ และสตรอเบอร์รี่อ่อนๆ ไม่หวาน ทานง่ายๆ หอมๆดีครับ

.

.

Plum Sky (110บาท) บ๊วยโซดา เป็นแก้วที่เข้มข้นมากๆ หวานบาดคอสุดๆครับ ผมรอให้น้ำแข็งละลายแล้วค่อยๆจิบไปทีละน้อยๆ ผมนั่งทานที่ร้านประมาณ 2 ชั่วโมง ยังหมดไปไม่ถึงครึ่งแก้วเลยครับ ก่อนกลับ น้ำแข็งละลายหมดแล้ว ผมลองจิบดูอีกที ยังหวานบาดๆ อยู่เลยครับ ใครไม่ชอบทานหวานแบบผม ผ่านไปเลยนะครับแก้วนี้

.

.

.

**** ของหวาน Sava Dining ****

.

เมนูนี้ เป็นซาหริ่มทับทิมกรอบน้ำแข็งใสครับ มาที่ใหญ่พอสมควร แยกน้ำกะทิ มาต่างหากครับ จริงๆ ถ้าไม่ต้องราดน้ำกะทิก็หวานแล้วนะครับ แต่ไม่หอม อยากได้ความหอมเพิ่มต้องราดกะทิเข้าไปอีกหน่อยครับ กำลังดี

.

.

ปิดท้ายด้วยเมนูกล่องข้าวน้อย Chocolate Frozen (480บาท) ดูรูปในเมนูแล้วไม่คิดว่าจะใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ โกโก้ปั่น ที่รองมาด้วยช็อคโกแลตนานาชนิดๆ ด้านล่าง เท่าที่สัมผัสได้จะมี โอรีโอ แบบไม่รวมครีม และ Maltesers ที่เป็นลูกกลมๆ กรอบๆ โรยหน้าด้วยวิปปิ้งครีม เกือบหมดกระป๋อง เพราะมันเยอะมากกกๆ แล้วก็ปาดขอบด้วยช็อคโกแลตแต่งหน้าอีกหน่อย ทานหมดนี่เบาหวานกินแน่ครับ แนะนำให้เป็นเมนูปิดมื้อ สำหรับ 5-6 คนได้เลยครับ

.
.

.

**** สรุป ****

รอบนี้มาลองเมนูใหม่เป็นหลักครับ รวมๆผมถือว่าทำได้ดีเลยครับ หลายๆเมนูที่ผสมผสานตะวันตก กับตะวันออกเข้่าด้วยกันก็ลงตัวดี มีข้อบกพร่องบ้างเล็กๆน้อยๆ อย่างเรื่องก้างปลา เรื่องความกรอบของเป็ด และเครื่องดื่มอย่าง บ๊วยโซดา ที่หวานบาดคอไป อย่างอื่นรวมๆก็ดีครับ

.

.

****ติดต่อ & พิกัด ****

ร้านอยู่ชั้น 6 ศูนย์การค้า The Emquatier ตึก Helix ครับ ออกจากลิฟต์มาเลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็เจอเลยครับ
โทร : 02 003 6208
Website : http://www.savadining.com/
Facebook : https://www.facebook.com/savadining?fref=ts

(197)

Facebook Comments

Views: 48

Exit mobile version